
กลั้นปัสสาวะไม่อยู่คืออะไร
ภาวการณ์กลั้นปัสสาวะไม่อยู่คือการมีปัสสาวะเล็ดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ผู้มีภาวะนี้อาจมีการปัสสาวะมากกว่า 8 ครั้งต่อวัน ซึ่งภาวะนี้มีหลายประเภท ดังนี้
- อาการปัสสาวะจะเล็ดเมื่อออกแรง เกิดจากการที่มีแรงดันที่กระเพาะปัสสาวะ เช่น การจาม การหัวเราะ หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ
- อาการปัสสาวะราดทันที คือการปวดปัสสาวะฉับพลันและไม่สามารถทำได้ทำให้ปัสสาวะก่อนที่จะถึงห้องน้ำ
- ปัสสาวะเล็ดและราดร่วมกัน เป็นภาวะที่มีอาการปัสสาวะเล็ดขณะออกแรงร่วมกับอาการปัสสาวะราดทันที โดยส่วนใหญ่ของผู้หญิงที่กลั้นปัสสาวะไม่อยู่มักจะเป็นภาวะนี้
- อาการปัสสาวะล้น คือการที่ไม่สามารถปัสสาวะได้จนหมดกระเพาะได้ จึงทำให้มีปัสสาวะเล็ดออกมา
สาเหตุที่ทำให้เกิดการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่มีหลายสาเหตุโดยจะแบ่งดังนี้
กลั้นปัสสาวะไม่อยู่แบบชั่วคราว สาเหตุของการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ชั่วคราว ส่วนมากมาจากอาหาร เครื่องดื่ม ยา อาการท้องผูก และการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ เช่น
- แอลกอฮอล์
- สารให้ความหวานแทนน้ำตาล
- คาเฟอีน
- น้ำอัดลม
- โซดา
- ช็อกโกแลต
- พริก
- การรับประทานวิตามินซีที่มากเกินความจำเป็น
- ยาบางชนิดในกลุ่มยารักษาโรคหัวใจและความดันโลหิต ยาคลายกล้ามเนื้อ และยากล่อมประสาท
- การติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ
- ท้องผูก
กลั้นปัสสาวะไม่อยู่เป็นประจำ ส่วนมากมักจะมาจากปัจจัยเหล่านี้
- การตั้งครรภ์ สาเหตุมาจากฮอร์โมนและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของลูกที่อยู่ในครรภ์
- การคลอดบุตร ทำให้อุ้งเชิงกรานอ่อนแอลงส่งผลให้การควบคุมกระเพาะปัสสาวะแย่ลง
- อายุที่มากขึ้นทำให้กระเพาะปัสสาวะเล็กลงและเกิดการบีบตัว
- หมดประจำเดือน เพราะระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลง ส่งผลให้เยื่อบุกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะแข็งแรงน้อยลง ทำให้กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ผู้หญิง
- การอุดตัน เพราะเมื่อมีสิ่งอุดตันทางเดินปัสสาวะทำให้ปัสสาวะน้อยลงจนนำไปสู่การล้นของกระเพาะปัสสาวะ จึงนำมาสู่การกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
- ปัญหาต่อมลูกหมากโต ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ในผู้ชาย
- โรคทางระบบประสาท โรคหลอดเลือดสมอง โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง โรคพาร์กินสัน อาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง รวมถึงเนื้องอกในสมองอาจปิดกั้นการส่งสัญญาณที่มีส่วนในการควบคุมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ ส่งผลให้อาจกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
วิธีป้องกันและรักษาภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
- การควบคุมการปัสสาวะ โดยการพยายามกลั้นปัสสาวะเป็นเวลา 10 นาที เพื่อฝึกการลดจำนวนการปัสสาวะต่อวัน
- การปัสสาวะซ้ำ เป็นการเลี่ยงไม่ให้เกิดภาวะปัสสาวะล้น
- กำหนดเวลาการปัสสาวะ เพื่อไม่ให้มีปัสสาวะค้างอยู่ในกระเพาะนานเกินไป
- การควบคุมอาหารและเครื่องดื่ม ลดเครื่องดื่มคาเฟอีน แอลกอฮอล์ อาหารและเครื่องดื่มที่มีความเป็นกรดสูง
- บริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
- การใช้ยาในการรักษา ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อแนะนำยาที่เหมาะสม
- การรักษาด้วยการผ่าตัด เช่น การผ่าตัดใส่หูรูดท่อปัสสาวะเทียม การผ่าตัดยกเนื้อเยื่อรอบคอกระเพาะปัสสาวะ การผ่าตัดรักษาด้วยสายคล้อง การผ่าตัดแก้ไขการหย่อนตัว
สรุป
ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่มักจะเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยลักษณะของการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่มี 4 แบบปัสสาวะเล็ดเมื่อออกแรง ปัสสาวะราดทันที ปัสสาวะเล็ดและราดร่วมกัน ปัสสาวะล้น โดยสาเหตุของการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่มีหลายสาเหตุ โดยจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ชั่วคราว และ กลั้นปัสสาวะไม่อยู่เป็นประจำ โดยสามารถป้องกันได้ง่ายๆ ด้วยการปรับพฤติกรรม และออกกำลังกายอุ้งเชิงกราน